* ✨👇✨ กดรับ Link นิยายรสแซ่บได้ที่ปกทุกปกที่นี่เลยจ้าา ✨👇✨ *

niyayZAP Related E-Books Related E-Books Related E-Books Related E-Books Series E-Books niyayZAP Related E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books niyayZAP Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน niyayZAP Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books niyayZAP niyayZAP niyayZAP niyayZAP niyayZAP Related E-Books niyayZAP niyayZAP Related E-Books Series E-Books Series E-Books  Series E-Books

Saturday, January 18, 2025

คลั่งรัก..เล่ห์พยศ: เพื่อนพ่อรสแซ่บ! [04] เงื่อนเงาในความลับ

🍹
คลั่งรัก..เล่ห์พยศ: เพื่อนพ่อรสแซ่บ!

โดย
หมื่นล้านคำรัก และ AI

©️ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

เงื่อนเงาในความลับ

(อันโตนิโอ และ อิซาเบล)

บทที่ 1
เจ้าของเหมืองหัวใจแกร่งและยัยคุณหนูผู้ไม่ยอมแพ้

ใต้แสงแดดที่ส่องสว่างจ้าเข้ามาทางหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ในห้องทำงานบนตึกสูงสุดของตึกสำนักงานที่ตั้งอยู่กลางกรุงเทพฯ เสียงของลมที่พัดผ่านมาทำให้บรรยากาศในห้องเย็นลงอย่างช้าๆ ท่ามกลางวิวที่น่าทึ่งของเมืองที่ไม่เคยหยุดเคลื่อนไหว ความเงียบสงบยิ่งทำให้บรรยากาศของห้องยิ่งดูหรูหราและน่าอัศจรรย์ยิ่งขึ้น

ที่โต๊ะทำงานไม้สักทองคำขนาดใหญ่ เงาของชายวัยกลางคนผู้มักจะดูสงบเงียบ แต่เต็มไปด้วยพลังงานที่ซ่อนอยู่ ลึกซึ้งเกินกว่าจะคาดเดา ชายคนนี้คือ อันโตนิโอ วัฒนา พ่อหม้ายชาวไทยเชื้อสายอิตาเลี่ยน วัย 40 ปี เจ้าของเหมืองเพชรที่เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติไม่อาจวัดค่าด้วยตัวเลข เขามีความมั่งคั่งที่กลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีเบอร์ต้นของโลก และหลายคนรู้จักเขาด้วยชื่อเสียงในวงการธุรกิจเพชรและเครื่องประดับระดับโลก

ในเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ซับเหงื่อจากอากาศร้อนตัดกับกางเกงสแลคสีดำ และรองเท้าหนังหรูหรา เขานั่งอยู่ในเก้าอี้ทำงานหรูหรา สายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเคร่งขรึม จ้องมองไปที่เอกสารในมืออย่างละเอียด ดวงตาสีฟ้ากระจ่างนั้นเต็มไปด้วยความคิดลึกซึ้ง แต่ก็ยังคงดึงดูดความสนใจของทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาอย่างไม่รู้ตัว

อันโตนิโอไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกอะไรมากมาย ราวกับว่าเขาเป็นคนที่สามารถควบคุมทุกสถานการณ์ได้อย่างเด็ดขาด แต่นั่นกลับเป็นแค่เปลือกที่คลุมบรรยากาศของเขา ความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเขา คือสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากผู้ชายคนอื่นๆ แม้ว่าหลายคนจะมองเห็นแค่ภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและมั่นคงก็ตาม

ในขณะที่เขาเดินออกจากห้องทำงาน หยุดไปที่กระจกบานใหญ่ที่สะท้อนภาพของเขา รอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ของอันโตนิโอปรากฏขึ้นชั่วครู่ เขามักจะคุ้นเคยกับการได้สิ่งที่ต้องการโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก เขารู้ดีว่าใครหลายคนที่อยู่รอบตัวเขาต่างก็หลงเสน่ห์เขา ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวที่มองเขาด้วยสายตาเคารพหรือบรรดาผู้ชายที่ต้องการเป็นอย่างเขา

แม้ว่าอันโตนิโอจะประสบความสำเร็จในทุกด้านของชีวิต แต่เขากลับรู้สึกว่าบางอย่างในชีวิตของเขายังขาดหายไป เหมือนมีบางสิ่งที่เขาอยากได้มากกว่าความสำเร็จทั้งหมดนั้น เขามีลูกชายที่รัก แต่การที่ต้องสูญเสียภรรยาไปเมื่อหลายปีก่อน ก็ทำให้เขาเข้าใจว่าบางครั้ง ความรักที่แท้จริงไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน

อันโตนิโอยังคงเดินไปตามทางของตัวเองที่เต็มไปด้วยการตัดสินใจที่ยากลำบากและต้องเผชิญกับสิ่งท้าทายใหม่ๆ เขาต้องการบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึก “มีชีวิต” มากกว่าการเป็นแค่เศรษฐีที่ประสบความสำเร็จ

แต่อะไรที่จะสามารถเติมเต็มความว่างเปล่านั้นได้ล่ะ? เขาไม่เคยรู้คำตอบจนกระทั่งได้พบกับเรื่องราวที่อาจเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปตลอดกาล...

ทันทีที่อันโตนิโอหันกลับไปที่โต๊ะทำงานของเขา รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา อีกไม่กี่วันข้างหน้า อะไรบางอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปในชีวิตของเขา เขารู้สึกได้ถึงสิ่งนั้นอย่างชัดเจน และพร้อมแล้วที่จะเผชิญกับมัน…


ขณะเดียวกัน... ท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นของกรุงมาดริด เมืองหลวงของประเทศสเปน คฤหาสน์สไตล์บาโรกหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางสวนดอกไม้ที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมอบอวล ภายในห้องโถงกว้างที่ตกแต่งด้วยโคมไฟแชนเดอเลียร์และภาพวาดศิลปะคลาสสิกอันเลอค่า เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นหินอ่อนดังก้องไปทั่ว

หญิงสาวร่างบางผู้มีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบราวกับประติมากรรมกรีก กำลังเดินตรงมายังห้องทำงานของพ่อเธอ เธอคือ “อิซาเบล ซานเชซ เดอ ลา ฟูเอนเต” บุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของมหาเศรษฐีชาวสเปนผู้ครอบครองกิจการไวน์ระดับโลก

อิซาเบลในวัย 20 ปี มีผิวสีน้ำผึ้งที่เปล่งประกายเมื่อกระทบแสงแดด เส้นผมยาวเป็นลอนสีน้ำตาลประกายทองของเธอถูกรวบขึ้นอย่างมีสไตล์ ดวงตาสีเฮเซลของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและแรงปรารถนา ชุดเดรสผ้าซาตินสีแดงสดแนบเนื้อที่เธอสวม โอบรับทุกส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกาย เผยให้เห็นแผ่นหลังเรียบเนียนและไหล่เปลือยที่น่าหลงใหล รองเท้าส้นสูงสีแดงเข้าชุดกับเล็บที่ทาสีแดงเข้มช่วยเสริมความเย้ายวนใจให้เธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ

อิซาเบลเดินเข้าไปในห้องทำงานของพ่อ เธอเห็นเขากำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่ในชุดสูทสีกรมท่า เธอเดินตรงเข้าไปนั่งลงตรงข้ามเขาโดยไม่เอ่ยคำใด

“อะไรทำให้ลูกมาหาพ่อแต่เช้า?” มานูเอล ซานเชซ เดอ ลา ฟูเอนเต เงยหน้าขึ้นจากเอกสาร เขามองดูใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจของลูกสาว

“พ่อ” เธอเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ทั้งเคร่งขรึมและเอาแต่ใจ “พ่อรู้ไหมว่าเพื่อนสนิทของพ่อ กำลังทำให้ฉันอับอายขนาดไหน?”

“อับอาย?” มานูเอลเลิกคิ้วสูงอย่างประหลาดใจ “อันโตนิโอทำอะไรให้ลูกไม่พอใจงั้นเหรอ?”

“เขากำลังควงแขนกับดารานางแบบชื่อดัง! ผู้หญิงคนนั้นทั้งสวย ทั้งเซ็กซี่ แถมยังอวดทุกอย่างผ่านข่าวหน้าหนึ่ง! แล้วรู้ไหมว่าเขาพูดอะไรกับนักข่าว?”

มานูเอลหัวเราะเบาๆ “ลูกกำลังพูดถึงเรื่องข่าวลือพวกนั้นอีกแล้วเหรอ? อันโตนิโอเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์และประสบความสำเร็จ แน่นอนว่าเขาต้องมีผู้หญิงรุมล้อมเป็นธรรมดา”

อิซาเบลกัดริมฝีปากล่าง เธอลุกขึ้นยืนด้วยความโมโหเล็กน้อย “พ่อรู้ไหมว่าฉันเกลียดอะไรที่สุด? ฉันเกลียดการถูกเมินเฉย!”

“แล้วลูกจะทำอะไร? ไปบอกเขาว่าลูกอิจฉางั้นเหรอ?”

เธอมีรอยยิ้มแตะแต้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “ไม่ค่ะ ฉันจะไปเป็นเลขาส่วนตัวของเขา”

คำพูดของเธอทำให้มานูเอลหัวเราะเสียงดัง “ลูกนี่ช่างมีไอเดียบ้าๆ เสียจริง! แต่ลูกแน่ใจเหรอว่าลูกจะจัดการกับเขาได้? อันโตนิโอไม่ใช่คนที่จะยอมทำตามใครง่ายๆ หรอกนะ”

อิซาเบลยกไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “ถ้าเขาไม่ยอม ฉันจะทำให้เขายอมด้วยเสน่ห์ของฉันเอง”

มานูเอลมองลูกสาวด้วยสายตาภูมิใจและเหนื่อยใจกับความเอาแต่ใจของเธอ เขารู้ดีว่าเมื่ออิซาเบลตัดสินใจแล้ว ไม่มีอะไรจะหยุดเธอได้

“เอาเถอะ แต่ลูกต้องระวังตัวให้ดี ผู้ชายอย่างอันโตนิโอไม่ใช่คนที่ลูกจะเล่นเกมด้วยได้ง่ายๆ”

อิซาเบลยิ้ม “เราจะได้เห็นกันค่ะ พ่อ”


ตอนต่อไป: บทที่ 2 – ไฟแห่งการท้าทาย
เมื่ออิซาเบลเริ่มต้นทำงานในฐานะเลขาส่วนตัวของอันโตนิโอ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะเต็มไปด้วยแรงดึงดูดที่ร้อนแรงและการปะทะกันของอารมณ์ ความลับและความรู้สึกที่ซ่อนอยู่จะเริ่มเปิดเผยเมื่อทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับอดีตและความปรารถนาที่ไม่อาจปฏิเสธได้!

บทที่ 2
ไฟแห่งการท้าทาย

เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ ในห้องทำงานขนาดใหญ่ที่กรุงเทพฯ อันโตนิโอ วัฒนา นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานไม้สักทองคำตัวเดิม สายตาจับจ้องอยู่ที่จอคอมพิวเตอร์พร้อมกับเอกสารกองใหญ่ที่กระจายอยู่บนโต๊ะ เสียงนั้นทำให้เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะเขาจำได้ว่าเขาไม่ได้อนุญาตให้ใครเข้ามารบกวน

“เข้ามา” เสียงทุ้มลึกเอ่ยขึ้นเรียบๆ

เมื่อประตูเปิดออก ภาพแรกที่ปรากฏทำให้อันโตนิโอต้องละสายตาจากงานตรงหน้า อิซาเบล ซานเชซ เดอ ลา ฟูเอนเต ปรากฏตัวพร้อมกับลุคที่ทำให้ห้องทั้งห้องดูเหมือนจะร้อนขึ้นในทันที

อิซาเบลอยู่ในชุดเดรสสีน้ำเงินเข้มที่ตัดเย็บอย่างประณีต เนื้อผ้าซาตินเนียนละเอียดแนบสนิทไปกับรูปร่างอันน่าหลงใหลของเธอ รอยผ่าด้านข้างของกระโปรงเผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียนที่ดูราวกับกำมะหยี่ ทุกก้าวย่างของเธอส่งเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นอย่างนุ่มนวลแต่มั่นใจ

“เลขาคนใหม่ของคุณมาเริ่มงานแล้วค่ะ” เธอกล่าวพร้อมยิ้มบางๆ ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย

อันโตนิโอเอนหลังพิงเก้าอี้ มือทั้งสองประสานกันไว้ที่หน้าท้อง ดวงตาสีฟ้าคมกริบจับจ้องเธอด้วยสายตาที่อ่านยาก

“เลขา?” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงสัยแต่แฝงความขบขัน “ผมจำได้ว่าผมไม่ได้ประกาศรับสมัครตำแหน่งนี้”

อิซาเบลก้าวเข้ามาใกล้ พลางยื่นแฟ้มเอกสารใบหนึ่งวางลงตรงหน้าเขา “แต่ฉันมีเอกสารที่คุณเซ็นอนุมัติแล้วนะคะ”

เขาเลิกคิ้ว มุมปากยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณบอกพ่อของคุณให้จัดการเรื่องนี้ใช่ไหม?”

เธอไม่ตอบตรงๆ แต่เดินไปหยุดอยู่ข้างโต๊ะทำงานของเขา ก่อนจะโน้มตัวลงเล็กน้อย เผยให้เห็นผิวเนียนของแผ่นอกที่โผล่พ้นคอเสื้อเดรสอย่างจงใจ

“ฉันเป็นคนที่อยากได้อะไรแล้วมักจะได้เสมอ คุณควรจะรู้จักนิสัยแบบนี้ที่ดื้อรั้นฉันดีนะคะ คุณวัฒนา” เธอกล่าวพร้อมกับสบตาเขา

อันโตนิโอหัวเราะในลำคอเบาๆ “และคุณก็มั่นใจว่าผมจะเล่นตามเกมของคุณ?”

“มั่นใจสิคะ” เธอกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน “เพราะฉันรู้ว่าคุณเองก็ชอบความท้าทายไม่ต่างกัน”

อันโตนิโอจ้องมองเธออยู่นาน ราวกับจะอ่านทุกความคิดของเธอผ่านแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและแรงดึงดูด เขายิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน เผยให้เห็นความสูงที่ทำให้เธอต้องแหงนมอง

“ถ้าคุณต้องการพิสูจน์ตัวเองในฐานะเลขาของผม ผมก็จะให้โอกาส แต่คุณต้องรู้ว่าผมไม่ใช่คนที่เล่นเกมง่ายๆ”

เธอยักไหล่ พลางเอียงศีรษะเล็กน้อย “ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อเล่นเกมค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อชนะ”

คำพูดของเธอทำให้อันโตนิโอรู้สึกถึงความร้อนแรงที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง เขารู้ดีว่าอิซาเบลไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่สวย แต่ยังเป็นผู้หญิงที่ฉลาดและรู้จักวิธีควบคุมสถานการณ์

“งั้นเรามาดูกัน” เขากล่าวพร้อมกับเดินอ้อมโต๊ะมายืนตรงหน้าเธอ “ว่าคุณจะชนะได้จริงไหม”

อิซาเบลเงยหน้ามองเขา รอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้าของเธอทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกท้าทายมากขึ้นกว่าเดิม ความตึงเครียดในอากาศระหว่างทั้งสองดูเหมือนจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ


ตอนต่อไป: บทที่ 3 – เสน่ห์ที่ไม่อาจต้านทาน

เมื่ออิซาเบลเริ่มต้นทำงานใกล้ชิดกับอันโตนิโอ ความตึงเครียดที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดระหว่างพวกเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ความลับในอดีตของทั้งคู่ที่เกี่ยวโยงกันเริ่มเผยให้เห็นเบื้องหลังที่อาจเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง!

บทที่ 3
เสน่ห์ที่ไม่อาจต้านทาน

แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านม่านผ้าลินินสีงาช้างของห้องทำงานบนชั้นสูงสุด อันโตนิโอ วัฒนา นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา แต่สายตาของเขาไม่ได้จับจ้องเอกสารตรงหน้าเหมือนเช่นทุกวัน เพราะเขารู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อาจเพิกเฉยได้เลย

เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดังเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอทำให้เขาหันไปมอง อิซาเบล ซานเชซ เดอ ลา ฟูเอนเต เดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารในมือ ชุดสูทกระโปรงสีแดงเลือดนกที่เธอสวมใส่บ่งบอกถึงรสนิยมที่หรูหราและเย้ายวนอย่างมีระดับ เส้นผมสีน้ำตาลเข้มถูกรวบไว้หลวมๆ เผยให้เห็นลำคอระหงส์และต่างหูเพชรที่สะท้อนแสงอ่อนๆ

“กาแฟของคุณค่ะ คุณวัฒนา” เสียงเธอนุ่มนวล แต่แฝงไปด้วยความเย้ายวนที่เหมือนตั้งใจให้เขาได้ยิน

เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีฟ้าคมกริบจับจ้องเธอขณะที่เธอวางถ้วยกาแฟลงตรงหน้า “ขอบคุณครับ คุณซานเชซ” เขาตอบกลับอย่างสุภาพ แต่แฝงด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนอยู่

อิซาเบลยิ้มเล็กๆ ก่อนจะเดินไปยืนข้างโต๊ะ เธอเอนตัวเล็กน้อย มือข้างหนึ่งวางบนโต๊ะทำงาน อีกข้างจับเอกสารที่แนบชิดลำตัว “นี่ค่ะ ตารางประชุมของคุณในวันนี้ แต่ฉันคิดว่า...เราน่าจะปรับบางอย่างเพื่อให้คุณมีเวลามากขึ้น”

อันโตนิโอหัวเราะในลำคอเบาๆ “คุณทำงานเก่งกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก คุณซานเชซ แต่ดูเหมือนว่าคุณจะมีแผนบางอย่างในใจ”

เธอจ้องเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ “บางทีค่ะ ฉันเป็นคนที่ชอบให้สิ่งต่างๆ เป็นไปตามที่ฉันต้องการ”

อันโตนิโอลุกขึ้นจากเก้าอี้ ร่างสูงใหญ่ของเขาทำให้เธอต้องเงยหน้ามอง เขาก้าวเข้าไปใกล้เธอจนระยะห่างระหว่างทั้งสองแทบจะไม่มีเหลือ “และคุณคิดว่าคุณจะควบคุมผมได้?” เสียงของเขาแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์

อิซาเบลไม่หลบสายตา เธอเผยรอยยิ้มที่แตะแต้มไว้บนมุมปากอย่างท้าทาย “ฉันไม่คิดค่ะ...แต่ฉันรู้ว่าฉันทำได้”

ความเงียบปกคลุมห้องอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่อันโตนิโอจะยิ้มกว้างขึ้น “งั้นเรามาดูกัน”

เขาก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้เธอตามเขามาที่โซฟารับแขกริมกระจกบานใหญ่ที่เผยให้เห็นวิวกรุงเทพฯ ด้านล่าง

อิซาเบลเดินตามไปอย่างมั่นใจ เธอนั่งลงบนโซฟา ปล่อยให้กระโปรงผ่าหน้าของเธอเลิกขึ้นเล็กน้อยเผยเรียวขาที่ทำให้อันโตนิโออดไม่ได้ที่จะมอง

“ถ้าคุณต้องการเป็นเลขาของผม คุณต้องทำให้ผมเชื่อว่าคุณมีค่าพอที่จะอยู่ข้างๆ ผมในทุกสถานการณ์” เขาพูดพลางนั่งลงตรงข้ามเธอ

“ฉันไม่ใช่แค่เลขาค่ะ คุณวัฒนา” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉันจะเป็นคนที่คุณขาดไม่ได้”

คำพูดของเธอทำให้อันโตนิโอนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะกดรอยยิ้มไว้ที่มุมปาก “คุณชอบท้าทายจริงๆ ใช่ไหม?”

“มันเป็นนิสัยของฉันค่ะ” เธอตอบพร้อมกับโน้มตัวไปข้างหน้า ใกล้เขามากขึ้น

บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียดที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูด ไม่มีใครพูดอะไร แต่สายตาของทั้งคู่พูดแทนทุกอย่าง


ตอนต่อไป: บทที่ 4 – แผนลับในเงา

อิซาเบลเริ่มแสดงความสามารถของเธอในฐานะเลขาคนใหม่ของอันโตนิโอ แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็มีแผนลับบางอย่างที่เขายังไม่รู้ ในขณะที่อันโตนิโอก็เริ่มค้นหาว่าทำไมเธอถึงต้องการเข้ามาใกล้เขามากขนาดนี้ ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างพวกเขากำลังจะนำไปสู่การเปิดเผยความลับที่เปลี่ยนทุกอย่าง!

บทที่ 4
แผนลับในเงา

แสงไฟระยิบระยับจากตึกระฟ้ากลางกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนส่องเข้ามาในห้องประชุมส่วนตัวบนชั้นสูงสุดของบริษัท วัฒนา ไดมอนด์ คอร์ป อิซาเบล ซานเชซ เดอ ลา ฟูเอนเต นั่งไขว่ห้างอยู่ที่ปลายโต๊ะประชุม เธอสวมเดรสไหมสีดำที่โอบรัดเรือนร่างอย่างเย้ายวน ดึงดูดทุกสายตาในห้อง โดยเฉพาะสายตาของอันโตนิโอ วัฒนา

การประชุมครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องทางธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของงานเลี้ยงเปิดตัวเครื่องเพชรคอลเลกชันใหม่ที่กำลังจะจัดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า อันโตนิโอต้องการให้งานนี้เป็นที่จดจำในระดับโลก และเขารู้ดีว่าความร่วมมือของอิซาเบลจะเป็นกุญแจสำคัญ

“ฉันมีข้อเสนอค่ะ” อิซาเบลพูดขึ้น น้ำเสียงของเธอนุ่มนวลแต่มั่นคง

อันโตนิโอนั่งพิงเก้าอี้ ดวงตาสีฟ้าเข้มของเขาจับจ้องเธออย่างพินิจพิเคราะห์ “ว่ามาสิ คุณซานเชซ”

เธอลุกขึ้นเดินมาหยุดตรงหน้าเขา มือเรียวยาววางแผ่นเอกสารลงบนโต๊ะตรงหน้าเขา ก่อนจะโน้มตัวลงมาเล็กน้อยจนกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของเธอลอยมากระทบประสาทสัมผัสของเขา

“งานเลี้ยงนี้ควรเป็นมากกว่างานเปิดตัวเครื่องเพชร มันควรเป็นงานที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ และ…” เธอหยุดพูดชั่วครู่ ก่อนจะมีรอยยิ้มที่แตะแต้มบนมุมปากอย่างมีเลศนัย “…ตัวตนของคุณด้วยค่ะ”

อันโตนิโอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ตัวตนของผม? คุณหมายถึงอะไร?”

“คุณรู้ดีอยู่แล้วว่าคุณไม่ได้เป็นแค่เจ้าของเหมืองเพชร แต่คุณคืออันโตนิโอ วัฒนา คนที่ทุกคนอยากรู้จักและเข้าหา งานนี้ควรแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์และความเป็นตัวคุณ” เธอพูดพร้อมกับจ้องเขาด้วยสายตาที่อ่านยาก

“คุณอยากให้ผมทำอะไร?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังไม่ออกว่าเขากำลังท้าทายหรือสนใจจริงๆ

“ฉันอยากให้คุณเป็นจุดศูนย์กลางของงานนี้ค่ะ และ...” เธอเดินเข้ามาใกล้เขามากขึ้นจนช่องว่างระหว่างพวกเขาแทบไม่มีเหลือ “…ฉันจะช่วยคุณสร้างภาพลักษณ์นั้น”

ความเงียบเข้าปกคลุมห้อง แต่ไม่ได้ทำให้บรรยากาศเบาบางลง มีเพียงแรงดึงดูดที่ก่อตัวขึ้นระหว่างพวกเขาเท่านั้นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

“แล้วคุณต้องการอะไรเป็นการตอบแทนล่ะ?” อันโตนิโอถาม เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบคางอย่างครุ่นคิด

อิซาเบลยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ฉันอยากได้อิสระค่ะ คุณวัฒนา อิสระที่จะจัดการทุกอย่างในแบบของฉันเอง”

อันโตนิโอหัวเราะในลำคอ “คุณชอบควบคุมจริงๆ”

“ก็เหมือนกับคุณนั่นแหละค่ะ” เธอตอบกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน

เขาลุกขึ้นยืน ร่างสูงใหญ่ของเขาทำให้เธอต้องเงยหน้ามอง เธอยังคงยืนนิ่ง ไม่ถอยหนีเหมือนคนที่รู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร

“ถ้าคุณต้องการอิสระ คุณต้องพิสูจน์ให้ผมเห็นว่าคุณคู่ควร” เขาพูด น้ำเสียงต่ำของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นแรง

อิซาเบลไม่ตอบ แต่ดวงตาของเธอบอกทุกอย่าง เธอชอบเกมนี้ เกมที่เธอรู้ว่าทั้งคู่ต่างก็มีสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ

“งั้นเรามาดูกันว่าคุณจะทำได้แค่ไหน” อันโตนิโอพูดก่อนจะเดินออกจากห้อง ทิ้งให้เธอยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมกับรอยยิ้มที่บ่งบอกว่าเธอไม่เคยแพ้ในเกมนี้


ตอนต่อไป: บทที่ 5 – ดินแดนแห่งการล่อลวง

งานเลี้ยงเปิดตัวเครื่องเพชรของบริษัทวัฒนา ไดมอนด์ คอร์ป กลายเป็นเวทีสำหรับการเผชิญหน้าระหว่างอันโตนิโอและอิซาเบล ความตึงเครียดและแรงดึงดูดระหว่างพวกเขาก่อตัวขึ้นท่ามกลางแสงไฟและเสียงดนตรี ทั้งคู่ต่างใช้เสน่ห์ของตัวเองเพื่อควบคุมเกม แต่ใครจะเป็นฝ่ายเหนือกว่า?

บทที่ 5
ดินแดนแห่งการล่อลวง

งานเลี้ยงเปิดตัวเครื่องเพชรคอลเลกชันใหม่ของ วัฒนา ไดมอนด์ คอร์ป ถูกจัดขึ้นในโรงแรมหรูระดับห้าดาว ใจกลางกรุงเทพฯ ภายใต้ธีม “ดินแดนแห่งแสงอันไร้ที่สิ้นสุด” บรรยากาศเต็มไปด้วยแสงไฟสลัวที่ตัดกับประกายระยิบระยับของเพชรน้ำงามที่จัดแสดงอย่างอลังการ แขกผู้มีเกียรติจากทั่วทุกมุมโลกต่างเดินเข้างานด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ที่สะท้อนถึงความมั่งคั่งและอำนาจ

อันโตนิโอ วัฒนา ยืนอยู่กลางห้องในชุดทักซิโด้สีดำสุดเนี้ยบ ร่างสูงสง่าของเขาโดดเด่นเหนือใคร เสน่ห์ที่เปี่ยมล้นของเขาทำให้ทุกสายตาโดยเฉพาะของบรรดาหญิงสาวในงานจับจ้องมาที่เขา

แต่สายตาสีฟ้าของเขากลับมองหาเพียงคนเดียว—อิซาเบล ซานเชซ เดอ ลา ฟูเอนเต

เธอปรากฏตัวราวกับนางพญาในชุดราตรีสีแดงสดที่แหวกลึกตั้งแต่ต้นขาจรดเอว ผ้าที่แนบเนื้อเน้นสัดส่วนงดงามของเธอ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่เปล่งประกายภายใต้เงาของแสงไฟยิ่งทำให้เธอดูเย้ายวนเกินต้าน ริมฝีปากแดงฉ่ำของเธอยกยิ้มเล็กน้อย เมื่อเธอเห็นอันโตนิโอกำลังจับจ้องมาที่เธอ

อิซาเบลเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าเขา ส้นสูงทำให้เธอสูงขึ้นเกือบเสมอกับเขา กลิ่นน้ำหอมของเธอหวานลึกจนทำให้เขาเผลอสูดลมหายใจเข้า

“คุณทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในกับดักของคุณ” อันโตนิโอเอ่ยขึ้น เสียงทุ้มนุ่มของเขาแผ่วเบาแต่ชัดเจน

“กับดัก? ฉันนึกว่าคุณจะสนุกกับเกมนี้เสียอีก” อิซาเบลตอบกลับอย่างเย้าหยอก เธอไม่เคยหลบสายตาเขาเลย

“คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังทำอะไร?” เขาถามพลางโน้มตัวเข้าใกล้เธอ ดวงตาของเขาจ้องมองเธอราวกับพยายามอ่านใจ

“รู้สิคะ ฉันกำลังทำให้คุณสนใจฉันมากขึ้นเรื่อยๆ” เธอตอบเสียงเรียบ แต่รอยยิ้มที่แตะแต้มบนมุมปากของเธอบ่งบอกถึงความมั่นใจที่ไม่เคยลดลง

อันโตนิโอหัวเราะในลำคอ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้า “คุณแน่ใจเหรอว่าอยากเล่นเกมนี้กับผม?”

“แล้วคุณกลัวจะแพ้เหรอคะ?” เธอย้อนกลับ

ก่อนที่เขาจะตอบ เสียงดนตรีเปลี่ยนเป็นเพลงช้า แขกในงานเริ่มจับคู่กันเต้นรำกลางฟลอร์

“งั้นเรามาลองกันดู” อันโตนิโอยื่นมือออกไปหาเธอ ดวงตาของเขาสื่อถึงคำท้า

อิซาเบลวางมือเรียวลงบนมือเขา “อย่างที่คุณต้องการค่ะ”

ทั้งสองก้าวเข้าสู่ฟลอร์เต้นรำ สายตาทุกคู่ในงานจับจ้องมาที่พวกเขา ราวกับทั้งคู่คือราชาและราชินีของค่ำคืนนี้

“ฉันต้องยอมรับค่ะ คุณวัฒนา คุณเต้นเก่งกว่าที่ฉันคิดไว้” อิซาเบลกระซิบเบาๆ ข้างหูเขา

“คุณควรรู้ไว้ ว่าผมเก่งหลายเรื่อง” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงต่ำที่ทำให้เธอรู้สึกถึงความเร่าร้อนที่แผ่กระจายออกมาจากตัวเขา

พวกเขาเต้นกันอย่างแนบชิดจนลมหายใจของทั้งคู่แทบจะสัมผัสกัน การเคลื่อนไหวทุกอย่างดูเหมือนถูกออกแบบมาเพื่อยั่วยุและดึงดูดกันและกัน

“คุณคิดว่าคุณจะชนะเกมนี้เหรอคะ?” อิซาเบลถาม ขณะที่เธอจงใจโน้มตัวเข้าหาเขา

“ไม่หรอก” เขาตอบพลางยิ้ม “เพราะผมคิดว่าผมชนะตั้งแต่คุณยอมเต้นกับผมแล้ว”

หลังจบเพลง ทั้งคู่เดินออกจากฟลอร์ อิซาเบลยิ้มให้เขาอย่างผู้ที่รู้ดีว่าเธอเป็นฝ่ายควบคุมเกมนี้

“คืนนี้ยังอีกยาวนาน คุณวัฒนา” เธอกระซิบข้างหูเขา ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้เขายืนมองตามด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความท้าทายและแรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทาน


ตอนต่อไป: บทที่ 6 – เงาในความลับ

ในคืนเดียวกันนั้น อิซาเบลและอันโตนิโอพบว่าความตึงเครียดระหว่างพวกเขาไม่ใช่เพียงแรงดึงดูดธรรมดา แต่กลับแฝงไปด้วยความลับที่ทั้งคู่ไม่อาจปิดบังได้อีกต่อไป ทั้งความปรารถนาและความจริงที่ซ่อนอยู่กำลังจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง…

บทที่ 6
เงาในความลับ

ค่ำคืนหลังงานเลี้ยงผ่านไปด้วยบรรยากาศที่ระอุ ราวกับทุกการกระทำและคำพูดระหว่าง อันโตนิโอ วัฒนา และ อิซาเบล ซานเชซ เดอ ลา ฟูเอนเต เป็นดั่งการเล่นหมากรุกที่ทั้งสองต่างพยายามปกป้องตัวเอง พร้อมๆ กับรุกคืบไปยังจุดอ่อนของอีกฝ่าย

หลังจากการเต้นรำที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูด อันโตนิโอยังคงยืนมองตามร่างของอิซาเบลที่เดินจากไป เธอช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน เขายอมรับกับตัวเองในใจว่าเธอไม่เหมือนใคร เธอไม่ใช่แค่หญิงสาวที่สวยสะกดทุกสายตา แต่เธอยังมีความฉลาดเจ้าเล่ห์ที่ทำให้เขาตื่นเต้นทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ

เมื่อคืนเริ่มเงียบสงบ อันโตนิโอกลับไปยังเพนต์เฮาส์ของเขาบนตึกสูงสุดของกรุงเทพฯ ห้องนั่งเล่นกว้างใหญ่ที่เปิดออกสู่ระเบียง มองเห็นวิวเมืองยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟ

แต่เขาไม่ได้อยู่คนเดียว

เสียงส้นรองเท้ากระทบกับพื้นหินอ่อนดังกังวานในความเงียบ อิซาเบลปรากฏตัวในชุดเดรสสีแดงสดตัวเดิม รอยยิ้มของเธอเหมือนกับแมวที่เพิ่งจับหนูได้

“คุณบอกฉันว่า คืนนี้จะน่าสนใจ...และฉันก็ไม่ผิดหวัง” เธอเอ่ยขึ้น พลางเดินเข้ามาใกล้เขา

อันโตนิโอไม่ตอบ เขาเพียงแค่เอนตัวลงพิงโซฟา ดวงตาสีฟ้าของเขาจับจ้องเธออย่างลึกซึ้ง

“คุณกล้ามากที่ตามผมมาถึงที่นี่” เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ดวงตาของเขากลับแฝงไปด้วยความปรารถนาที่เขาพยายามเก็บซ่อนไว้

“ฉันอยากให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ลืมใครบางคนในค่ำคืนนี้” เธอตอบพลางก้าวเข้ามาใกล้จนยืนอยู่ตรงหน้าเขา

อันโตนิโอหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน ดวงตาของเขาอยู่ระดับเดียวกับเธอ และในระยะใกล้นี้ เขาสามารถได้กลิ่นหอมหวานที่ล่องลอยมาจากผิวเนียนนุ่มของเธอ

“คุณมักจะชอบท้าทายผม” เขาเอ่ยขึ้น “แต่คุณรู้ไหม อิซาเบล...เกมนี้คุณอาจไม่ใช่คนที่ควบคุมมัน”

เธอยิ้ม ยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ “งั้นเรามาลองดูกัน”


บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียดที่แสนเร้าใจ อิซาเบลเดินวนรอบตัวเขาอย่างจงใจ ทุกการเคลื่อนไหวของเธอเหมือนกับการยั่วยุที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี เธอวางมือบนอกเขา ก่อนจะไล่นิ้วไปตามแนวเสื้อเชิ้ต

“คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?” อันโตนิโอถามเสียงต่ำ ขณะที่สายตาของเขาไม่ละไปจากเธอ

“ฉันกำลังทำให้คุณรู้สึก...ว่าคุณต้องการฉันมากกว่าที่คุณคิด”

อันโตนิโอกระตุกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะคว้าข้อมือเธอไว้ ดึงเธอเข้ามาใกล้จนร่างของพวกเขาแนบชิดกัน

“คุณมั่นใจเกินไปแล้วล่ะ อิซาเบล” เขาพูดพลางใช้มือไล้ไปตามแก้มของเธอ “ผมต่างหากที่เป็นคนทำให้คุณอยู่ตรงนี้”

หัวใจของอิซาเบลเต้นแรง ร่างกายของเธอสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเมื่อเขากดจูบแผ่วเบาบนหน้าผากของเธอ

“คุณกำลังเล่นกับไฟ” เธอกระซิบ

“แล้วคุณล่ะ?” เขาย้อนถามก่อนจะกดริมฝีปากลงบนเธอในที่สุด


เมื่อแสงแรกของวันสาดส่องเข้ามาในห้อง อิซาเบลตื่นขึ้นมาบนเตียงกว้างของอันโตนิโอ แต่ในขณะที่เธอยังคงหวนคิดถึงเหตุการณ์ในค่ำคืนที่ผ่านมา ดวงตาของเธอก็เหลือบไปเห็นเอกสารบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน

ความสงสัยทำให้เธอเดินเข้าไปหยิบเอกสารนั้นขึ้นมาอ่าน และเมื่อเธอเห็นสิ่งที่อยู่ในนั้น ดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง

“นี่มัน...”

เสียงของอันโตนิโอดังขึ้นจากด้านหลัง “คุณไม่ควรยุ่งกับของที่ไม่ใช่ของคุณ”

เธอหันไปมองเขา และพบว่าเขายืนอยู่ตรงประตูห้อง พร้อมกับแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความหมาย

“อันโตนิโอ...นี่มันเรื่องอะไร?”


ตอนต่อไป: บทที่ 7 – บ่วงแห่งความลับ

อิซาเบลค้นพบความจริงบางอย่างเกี่ยวกับธุรกิจของอันโตนิโอที่อาจเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่ในขณะเดียวกัน ทั้งสองยังคงต้องต่อสู้กับแรงดึงดูดที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ความลับที่ถูกซ่อนอยู่ในเงามืดจะเปิดเผยอะไรอีกบ้าง?

บทที่ 7
บ่วงแห่งความลับ

ในห้องเพนต์เฮาส์ที่เต็มไปด้วยแสงแดดอ่อนยามเช้า อิซาเบล ซานเชซ เดอ ลา ฟูเอนเต ยังคงยืนอยู่กลางห้อง มือเรียวถือแฟ้มเอกสารที่เผยให้เห็นข้อมูลสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับธุรกิจของ อันโตนิโอ วัฒนา ชายผู้ซึ่งเพิ่งทำให้เธอสัมผัสถึงความลุ่มหลงเกินต้านทานในค่ำคืนที่ผ่านมา

“นี่คุณกำลังปิดบังอะไรไว้กันแน่?” เธอหันมามองเขาด้วยสายตาที่ผสมผสานระหว่างความสงสัยและความผิดหวัง

อันโตนิโอเดินเข้ามาใกล้ ร่างสูงสง่าของเขามีออร่าอันน่าคุกคามแต่ก็ดึงดูดในเวลาเดียวกัน เขายื่นมือไปดึงแฟ้มออกจากมือเธอเบาๆ ดวงตาสีฟ้าคมกริบจับจ้องเธออย่างไม่ละสายตา

“บางครั้ง ความลับก็จำเป็นสำหรับความปลอดภัย” เขากล่าว น้ำเสียงของเขานุ่มลึก แต่เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม

“ความปลอดภัยของใคร? ของคุณ? หรือของฉัน?” อิซาเบลถามกลับพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมให้ใครมาปิดบังง่ายๆ

อันโตนิโอถอนหายใจ เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่ดื้อรั้นและฉลาดเท่านี้มาก่อน เธอเหมือนเป็นกระจกสะท้อนตัวตนอีกด้านของเขาเอง ความเป็นคุณหนูขาลุยของเธอทำให้เธอมีจุดยืนที่ชัดเจน ไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครง่ายๆ

“ผมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคุณ อิซาเบล” เขาพูดพลางเอื้อมมือไปแตะที่ไหล่ของเธอ “ถ้าคุณเชื่อใจผมสักนิด คุณจะเข้าใจว่าผมไม่มีทางทำร้ายคุณ”

“แต่ความลับมันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นหมากในเกมของคุณ” เธอตอบ น้ำเสียงของเธอสั่นเล็กน้อย แต่ยังคงความเด็ดเดี่ยวไว้

อันโตนิโอจับปลายคางเธอเบาๆ ยกให้ใบหน้าของเธอขึ้นสบตาเขา “คุณไม่ใช่หมากในเกมของผม...คุณคือผู้เล่นคนสำคัญที่สุดต่างหาก”


อิซาเบลหันหน้าหนีจากการสัมผัสของเขา แม้หัวใจของเธอจะเต้นแรงจนแทบระเบิด เธอก็ยังไม่อยากปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาโดยง่าย

“คุณพูดอะไรแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนหรือเปล่า?” เธอถาม พลางยกคิ้วขึ้นอย่างท้าทาย

อันโตนิโอหัวเราะเบาๆ “คุณคิดว่าผมเป็นคนแบบนั้นจริงๆ เหรอ?”

“แล้วฉันควรคิดยังไง?” เธอถามเสียงแข็ง ก่อนที่เขาจะโอบแขนรอบตัวเธอ ดึงเธอเข้ามาใกล้จนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างร่างกายของพวกเขา

“คุณควรรู้ว่าผมพูดจริงทุกคำ...และคุณควรรู้ด้วยว่า ผมไม่มีวันปล่อยคุณไป” เขากระซิบข้างหูเธอ

อิซาเบลพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้หลงไปกับคำพูดของเขา แต่เมื่อริมฝีปากของเขาเคลื่อนเข้ามาใกล้ เธอก็ไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป

จูบของพวกเขาเต็มไปด้วยความร้อนแรงและความลึกซึ้ง ทุกการสัมผัสเหมือนเป็นการเติมเต็มช่องว่างในจิตใจของทั้งสองคน


หลังจากช่วงเวลาที่ร้อนแรงผ่านไป อิซาเบลนั่งมองวิวเมืองจากระเบียง เธอยังคงสงสัยในสิ่งที่เธอเห็นในแฟ้มเอกสารนั้น

“คุณจะบอกฉันได้ไหมว่าแฟ้มนั่นเกี่ยวกับอะไร?” เธอถามโดยไม่หันกลับมามองเขา

อันโตนิโอเดินเข้ามาใกล้ มือของเขาวางลงบนไหล่ของเธอเบาๆ “มันเกี่ยวกับอดีตของผม อดีตที่ผมพยายามปกปิดมาตลอด”

อิซาเบลหันมามองเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย “อดีตแบบไหน?”

เขาถอนหายใจ ก่อนจะเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับความลับทางธุรกิจของครอบครัววัฒนา ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อตกลงที่ไม่โปร่งใสในอดีต และวิธีที่เขาพยายามเปลี่ยนแปลงมันเพื่อทำให้ธุรกิจสะอาดขึ้น

“แล้วคุณกลัวว่าฉันจะไม่เข้าใจ?” เธอถาม

“ผมกลัวว่ามันจะทำให้คุณมองผมเปลี่ยนไป”

อิซาเบลยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะจับมือของเขาไว้ “อันโตนิโอ วัฒนา...คุณคิดว่าฉันจะเป็นผู้หญิงที่มองคนจากอดีตงั้นเหรอ? ฉันสนใจแค่ว่าคุณเป็นใครในตอนนี้ และคุณจะทำอะไรต่อไป”


ตอนต่อไป: บทที่ 8 – แรงดึงดูดที่ไร้ขีดจำกัด

เมื่อความลับของอันโตนิโอถูกเปิดเผย อิซาเบลต้องตัดสินใจว่าจะยืนเคียงข้างเขาในเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคหรือไม่ ขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ยิ่งลึกซึ้งและร้อนแรงขึ้นจนยากที่จะถอยกลับ ทั้งสองจะทำอย่างไรกับความรักที่ซับซ้อนและแรงดึงดูดที่ไม่มีที่สิ้นสุด?

บทที่ 8
แรงดึงดูดที่ไร้ขีดจำกัด

แสงไฟนีออนจากตึกสูงระฟ้าในยามค่ำคืนสะท้อนผ่านหน้าต่างบานใหญ่ในห้องเพนต์เฮาส์ของ อันโตนิโอ วัฒนา ความเงียบสงบที่รายล้อมกลับถูกทำลายลงด้วยเสียงฝีเท้าของ อิซาเบล ซานเชซ เดอ ลา ฟูเอนเต ที่ก้าวเข้ามาด้วยท่าทางมั่นใจ

เธอสวมชุดเดรสผ้าไหมสีแดงเข้มที่แนบเนื้อทุกสัดส่วน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกายด้วยความท้าทาย แต่ซ่อนความหวั่นไหวไว้ลึกๆ

“คุณพยายามทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันรู้ดีว่าในหัวคุณกำลังคิดอะไรอยู่” อิซาเบลเอ่ยขึ้น ท่ามกลางความเงียบ

อันโตนิโอที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง พร้อมแก้ววิสกี้ในมือ หันมามองเธอ ดวงตาสีฟ้าคมกริบของเขากลับไม่ได้แสดงความเข้มงวดเหมือนเคย แต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน

“คุณรู้อะไรเกี่ยวกับผมมากกว่าที่ผมคิดเสียอีก” เขาเอ่ยตอบ น้ำเสียงทุ้มลึกที่ทำให้อิซาเบลรู้สึกเหมือนตกอยู่ในอ้อมแขนของเขาโดยไม่รู้ตัว

“ไม่ใช่ว่าฉันอยากรู้” เธอเดินเข้าไปใกล้เขา “แต่คุณต่างหากที่ปล่อยให้ฉันเห็นทุกอย่าง ทั้งความลับ ทั้งความกลัวของคุณ”


อันโตนิโอยกรอยยิ้มมาไว้ที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “แล้วคุณจะจัดการกับสิ่งที่คุณเห็นยังไงล่ะ? อิซาเบล”

เธอเดินมาหยุดตรงหน้าเขา ใกล้พอที่จะได้กลิ่นอายของน้ำหอมที่เขาใช้ กลิ่นอันทรงเสน่ห์ที่ทำให้หัวใจเธอเต้นแรง

“บางทีฉันอาจใช้มันต่อรองกับคุณ” เธอเอ่ยเสียงเบา แต่เต็มไปด้วยความท้าทาย ดวงตาของเธอไม่ละไปจากใบหน้าของเขา

“ต่อรอง?” เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะวางแก้ววิสกี้ลงบนโต๊ะใกล้ๆ แล้วเอื้อมมือไปแตะที่คางของเธอเบาๆ “คุณต้องการอะไรจากผมล่ะ?”

อิซาเบลยิ้มเล็กน้อย เธอไม่ได้ถอยหลัง แต่กลับยืนหยัดในตำแหน่งเดิม ราวกับเป็นการยืนยันว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ใครจะควบคุมได้ง่ายๆ

“สิ่งที่ฉันต้องการ...คุณรู้อยู่แล้ว”

คำพูดของเธอทำให้อันโตนิโอต้องหรี่ตา ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความเข้าใจและความปรารถนา

“คุณไม่ควรเล่นเกมนี้กับผม” เขากระซิบใกล้ๆ

“แล้วใครกันแน่ที่เริ่มเกมนี้ก่อน?” เธอถามกลับอย่างชาญฉลาด


ในที่สุด ความอดทนของอันโตนิโอก็หมดลง เขาดึงเธอเข้ามาใกล้ในอ้อมแขน ริมฝีปากของเขาประกบกับเธออย่างร้อนแรง จูบที่เต็มไปด้วยความต้องการและความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้มานาน

อิซาเบลตอบสนองเขาอย่างไม่ลังเล เธอสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนและความจริงใจที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความร้อนแรงนี้

ทุกการเคลื่อนไหวของเขาเหมือนเป็นการย้ำเตือนว่าเขาไม่ต้องการใครนอกจากเธอ และทุกสัมผัสของเธอก็เป็นการตอบรับว่าเธอก็รู้สึกไม่ต่างกัน


หลังจากช่วงเวลาที่ร้อนแรงผ่านไป ทั้งคู่กลับมานั่งบนโซฟาตรงระเบียง อิซาเบลเอนตัวซบไหล่ของอันโตนิโอ ขณะที่เขาใช้มือลูบผมของเธอเบาๆ

“คุณรู้ไหมว่าคุณทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไปแค่ไหน?” เขาพูดขึ้น

“ฉันก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง” เธอตอบพร้อมรอยยิ้ม

“ไม่ใช่สำหรับผม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณคือคนที่ทำให้ผมอยากเป็นคนที่ดีกว่าเดิม อยากต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง”

อิซาเบลเงยหน้ามองเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “ฉันเชื่อในตัวคุณ อันโตนิโอ และฉันจะอยู่ข้างคุณ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”


ตอนต่อไป: บทที่ 9 – พายุแห่งหัวใจ

เมื่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่เข้าสู่จุดที่ลึกซึ้งและจริงจังมากขึ้น ทั้งสองต้องเผชิญกับอุปสรรคใหม่ที่มาจากคนใกล้ตัวที่ไม่ยอมให้พวกเขาอยู่ด้วยกันง่ายๆ พวกเขาจะสามารถก้าวข้ามพายุแห่งหัวใจนี้ไปได้หรือไม่?

บทที่ 9
พายุแห่งหัวใจ

เสียงคลื่นกระทบชายฝั่งดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวส่องแสงระยิบระยับ เงาสะท้อนของดวงจันทร์ทอดลงบนผิวน้ำทะเลที่พลิ้วไหว เสียงลมพัดเบาๆ พาเอากลิ่นเค็มของทะเลเข้ามาในวิลล่าสุดหรูที่ตั้งอยู่ริมหน้าผา

อิซาเบล ซานเชซ เดอ ลา ฟูเอนเต ก้าวออกมาจากห้องนอนใหญ่ เธอสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ตัวใหญ่เกินไปสำหรับเธอ เห็นได้ชัดว่าเป็นของ อันโตนิโอ วัฒนา ขอบเสื้อเลิกขึ้นเล็กน้อยตามการเคลื่อนไหวของเธอ เผยให้เห็นเรียวขาที่งดงาม

เธอเดินมายืนที่ระเบียง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองออกไปยังเส้นขอบฟ้า ลมพัดปลายผมยาวของเธอให้ปลิวไหว เธอพยายามดึงความคิดของตัวเองให้หลุดจากภาพเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน

แต่ไม่ทันที่เธอจะจมอยู่ในความคิดได้นาน เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง เธอไม่ต้องหันกลับไปก็รู้ว่าเป็นใคร

“คุณหนีผมออกมาทำไม?” น้ำเสียงทุ้มลึกของอันโตนิโอดังขึ้น พร้อมกับสัมผัสอุ่นของมือที่เอื้อมมาแตะที่ไหล่ของเธอ

“ฉันไม่ได้หนี ฉันแค่อยาก...สงบสติอารมณ์” เธอตอบโดยไม่หันไปมอง

“สงบสติอารมณ์จากอะไร?” อันโตนิโอเดินเข้ามาใกล้ จนตอนนี้ร่างสูงใหญ่ของเขาอยู่ด้านหลังเธอ

อิซาเบลหันกลับมา ดวงตาของเธอจ้องมองเขาอย่างตรงไปตรงมา “จากคุณ”


ความท้าทายที่ไม่อาจต้านทาน

คำพูดของเธอทำให้อันโตนิโอมีรอยยิ้มแตะแต้มที่มุมปาก เขาโน้มตัวเข้าใกล้ กระซิบที่ข้างหูของเธอ “แล้วผมทำอะไรกับคุณล่ะ ถึงทำให้คุณต้องหนีออกมาสงบสติอารมณ์?”

“คุณรู้ดีอยู่แล้ว” เธอตอบเสียงเบา ความใกล้ชิดของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นแรง

“ถ้าผมรู้...ผมก็คงไม่ถาม” เขาพูดพลางใช้มือดันคางเธอขึ้นเล็กน้อย ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ดวงตาของเธอ

ความเงียบงันในระหว่างที่ทั้งสองมองตากันนั้นกลับเต็มไปด้วยคำพูดนับพันที่ไม่ได้เอ่ยออกมา

ในที่สุด อิซาเบลก็ยอมแพ้ เธอถอนหายใจเบาๆ “คุณทำให้ฉัน...หวั่นไหว”

คำพูดนั้นทำให้อันโตนิโอหัวเราะเบาๆ เขาเอื้อมมือไปจับมือของเธอไว้ “หวั่นไหว? หรือคุณแค่ไม่อยากยอมรับว่าคุณรู้สึกเหมือนผม”

“แล้วคุณรู้สึกยังไง?” เธอถามกลับ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย

อันโตนิโอก้มลงจนหน้าผากของเขาแตะกับหน้าผากของเธอ “ผมรู้สึกว่าผมต้องการคุณ ไม่ใช่แค่ตอนนี้ แต่ทุกช่วงเวลาของชีวิตผม”


พายุแห่งหัวใจ

คำพูดของเขาทำให้อิซาเบลเงียบไป เธอรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของพวกเขามันไม่ง่ายเลย ทั้งอุปสรรคจากอดีตของเขาและเธอเองที่ยังคงเป็นเงามืดที่รอคอยจะทำลายทุกอย่าง

“แต่ถ้าฉันบอกว่าฉันกลัวล่ะ?” เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

อันโตนิโอกุมมือของเธอแน่นขึ้น “ถ้าคุณกลัว ผมจะอยู่ตรงนี้กับคุณ เราจะเผชิญหน้ากับมันไปด้วยกัน”

เขาโน้มตัวลงและจูบเธอเบาๆ จูบที่เต็มไปด้วยความมั่นคงและความปรารถนาที่ไม่มีวันหมดสิ้น


บทต่อไป: บทที่ 10 – ความลับที่เปิดเผย

ในขณะที่ความสัมพันธ์ของอันโตนิโอและอิซาเบลกำลังเดินหน้า ความลับในอดีตของอิซาเบลกลับเริ่มถูกเปิดเผยทีละนิด พวกเขาจะรับมือกับความจริงนี้ได้อย่างไร?

บทที่ 10
ความลับที่เปิดเผย

เสียงเปียโนที่ดังเบาๆ จากลำโพงในห้องรับแขกเพิ่มความโรแมนติกให้กับค่ำคืนของพวกเขา อิซาเบล ซานเชซ เดอ ลา ฟูเอนเต นั่งอยู่ในชุดเดรสผ้าซาตินสีแดงเข้มที่แนบเนื้อ เผยให้เห็นไหล่ขาวเนียนของเธอที่สะท้อนแสงจากโคมไฟ เธอเหลือบมองไปยังอันโตนิโอ วัฒนา ที่กำลังรินไวน์แดงลงในแก้วคริสตัล ใบหน้าคมเข้มของเขายังคงเต็มไปด้วยความมั่นใจและเสน่ห์แบบที่ทำให้เธอหลีกหนีไม่ได้

"ดื่มหน่อยไหม? คืนนี้ผมเลือกไวน์ที่หวานเหมือนคุณเลยนะ" เสียงทุ้มของเขาเอ่ยพร้อมรอยมีรอยยิ้มที่แตะแต้มบนมุมปากที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง อันโตนิโอในค่ำคืนนี้ดูอ่อนโยนแต่กลับมีบางอย่างในสายตาของเขาที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงเข้าสู่พายุอีกครั้ง

"แค่แก้วเดียวก็พอค่ะ" เธอยิ้มตอบเบาๆ 

"มานี่สิ ผมมีอะไรอยากให้คุณดู"

เขาพาเธอเดินออกไปยังระเบียงด้านนอก ที่ซึ่งลมทะเลเย็นๆ พัดมาอย่างอ่อนโยน ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยดวงดาวสว่างไสว และทันทีที่เธอก้าวออกไป เธอก็ต้องเบิกตากว้าง

โต๊ะอาหารสำหรับสองคนถูกจัดขึ้นอย่างประณีต ดอกกุหลาบสีแดงสดวางเรียงอยู่กลางโต๊ะ พร้อมกับแสงเทียนที่สะท้อนความอบอุ่น อันโตนิโอยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าของเธอ

"คุณทำทั้งหมดนี้เพื่อฉันเหรอ?" เธอถามเสียงแผ่ว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

"คุณควรจะรู้แล้วว่าผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้เพื่อใครนอกจากคุณ" เขาตอบก่อนจะพาเธอไปนั่ง

ระหว่างที่พวกเขานั่งทานอาหารและดื่มไวน์ด้วยกัน บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความหวานที่ยากจะอธิบายได้ เมื่อมื้ออาหารจบลง อันโตนิโอเอื้อมมือไปจับมือของเธออีกครั้ง

"อิซาเบล..." เขาเอ่ยชื่อเธอเบาๆ ดวงตาของเขาจับจ้องเธออย่างแน่วแน่ "ผมมีบางอย่างที่อยากจะถามคุณ แต่ผมอยากให้มันพิเศษ เหมือนคุณ"

เขาดึงเธอขึ้นมายืนกลางระเบียงก่อนจะถอดนาฬิกาข้อมือของตัวเองออก นาฬิกาประดับเพชรน้ำงามอย่างพิเศษจากเหมืองของเขาเองที่มีสัญลักษณ์ครอบครัวของเขาสลักไว้ด้านหลัง เขาบรรจงสวมมันที่ข้อมือให้เธอ

"ผมรู้ว่าคนทั่วไปอาจจะใช่แหวนเพชร แต่สำหรับผม นาฬิกาเรือนนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของผม มันบอกเวลา...และผมอยากให้เวลาทั้งหมดของผมเป็นของคุณ"

ดวงตาของอิซาเบลเบิกกว้าง น้ำตาคลอเบ้า เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้ เธอยิ้มทั้งน้ำตา "ค่ะ...ฉันจะแต่งงานกับคุณ"

ทันทีที่คำพูดนั้นหลุดออกมา อันโตนิโอดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด จูบเธออย่างลึกซึ้ง ราวกับต้องการให้ทั้งจักรวาลรู้ว่าเธอคือคนเดียวที่เขาต้องการ

ตอนพิเศษ
ความสุขที่สมบูรณ์

เสียงคลื่นทะเลยังคงกระทบชายฝั่งอย่างนุ่มนวล เหมือนกับที่เคยเป็นในวันที่พวกเขาพบกันครั้งแรก บนผืนทรายสีขาวนวลที่ทอดยาวนั้น มีซุ้มดอกไม้ที่ประดับด้วยดอกกุหลาบสีแดงและสีขาวตัดกันอย่างสวยงาม แขกในงานพิธีแต่งงานล้วนแต่เป็นคนสำคัญในชีวิตของทั้งสอง ทั้งครอบครัว เพื่อนสนิท และเพื่อนร่วมงาน

อิซาเบล ซานเชซ เดอ ลา ฟูเอนเต เดินเคียงคู่มากับพ่อของเธอในชุดเจ้าสาวที่แสนสง่างาม เดรสลูกไม้สีขาวแนบเนื้อที่เผยความงดงามของเธอทุกส่วน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเธอจ้องมองไปยังอันโตนิโอ วัฒนา ผู้ที่กำลังยืนรอเธออยู่ที่หน้าแท่นพิธี เขาในชุดสูทสีครีมตัดเย็บพิเศษ รอยยิ้มอบอุ่นของเขาทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงเหมือนครั้งแรกที่ได้พบกัน

“คุณคือผู้หญิงที่ทำให้ชีวิตผมมีความหมาย และวันนี้ผมอยากให้ทุกคนได้เห็นว่าคุณเป็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม” อันโตนิโอเอ่ยในขณะที่ทั้งสองยืนต่อหน้าผู้ประกอบพิธี ดวงตาของเขามีเพียงเธอเท่านั้น

“และคุณคือคนที่ทำให้ฉันเชื่อในความรักอีกครั้ง คุณคือทุกสิ่งที่ฉันต้องการในชีวิต” อิซาเบลตอบด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความรัก

เสียงปรบมือดังขึ้นทันทีที่ทั้งสองกล่าวคำสาบานรักต่อกัน และในที่สุด พวกเขาก็จูบกันต่อหน้าทุกคน เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความลึกซึ้งและความมั่นคงที่ไม่มีสิ่งใดสามารถทำลายได้


ครอบครัวที่อบอุ่น

สองปีผ่านไป บนระเบียงกว้างของวิลล่าที่เคยเป็นจุดเริ่มต้นของพวกเขา วันนี้กลับมีเสียงหัวเราะและเสียงเด็กๆ ที่วิ่งเล่นไปทั่ว

“มาเร็วค่ะ! จับให้ได้นะ!” เสียงใสๆ ของเด็กหญิงตัวเล็กคนหนึ่งดังขึ้น เธอคือ "เอเลน่า" ลูกสาวคนโตวัย 4 ขวบที่ได้ดวงตาสีน้ำตาลของแม่และเสน่ห์แพรวพราวจากพ่อ

ในขณะที่ "มาเทโอ" ลูกชายวัย 2 ขวบที่แก้มยุ้ยกำลังคลานหนีอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะของเขาดังไปทั่วระเบียง

“จับตัวแสบให้ได้ก่อนเถอะ แล้วจะรู้ว่ามันไม่ง่าย!” อันโตนิโอพูดขึ้นพร้อมกับพุ่งเข้ามาจับตัวลูกชายที่กำลังคลานหนี เขาอุ้มมาเทโอขึ้นสูงในอากาศ ทำให้เสียงหัวเราะดังขึ้นอีก

“คุณเล่นกับลูกจนเขาตื่นเต้นเกินไปอีกแล้ว” อิซาเบลเอ่ยพลางยิ้ม เธอสวมเดรสลายดอกไม้และกำลังยืนมองภาพครอบครัวของเธอด้วยความสุข

อันโตนิโอเดินเข้ามาหาเธอ เขากอดเอวเธอจากด้านหลัง “ให้พวกเขาตื่นเต้นน่ะดีแล้ว ผมอยากให้ลูกๆ ของเราจำได้ว่าบ้านนี้คือบ้านที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ”

อิซาเบลหัวเราะเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวมาจูบที่แก้มเขา “และหัวหน้าครอบครัวคนนี้ก็เป็นคนที่ดื้อที่สุด”

“แต่คุณก็รักคนดื้อคนนี้ใช่ไหมล่ะ?” เขากระซิบใกล้ๆ เธอ ก่อนจะก้มลงจูบเธออย่างอ่อนโยน ลูกๆ ของพวกเขาโห่ร้องเสียงดังเมื่อเห็นพ่อแม่แสดงความรักต่อกัน


จบบริบูรณ์

คำขอบคุณจากใจ


นิยายเรื่องนี้เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดแล้วค่ะ เราขอขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ร่วมลุ้นและเอาใจช่วยให้ความรักของ อันโตนิโอ และ อิซาเบล ผ่านพ้นทุกอุปสรรค และมาถึงบทสรุปที่เต็มไปด้วยความสุขและความมั่นคง

เราอยากให้เรื่องราวนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าความรักที่แท้จริงสามารถเอาชนะทุกสิ่งได้ ขอให้ทุกคนได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวนี้ และสร้างความสุขในชีวิตของตัวเองเหมือนกับที่พวกเขาสร้างให้กัน

สุดท้ายนี้ เราขอขอบคุณ ChatGPT ที่ช่วยเราในการสร้างนิยายเรื่องนี้ให้มีความสมบูรณ์แบบ ทั้งโรแมนติก น่ารัก และความสุขที่เปี่ยมล้น ขอขอบคุณจากใจค่ะ!

✨🎧✨ ฟังฟรี นิยาย AI        


03 The Billionaire's Darling : สัญญาร้าย...สัญญารัก

เมื่อข้อตกลงที่เริ่มต้นด้วยความลับกลายเป็นรักแท้ที่ร้อนแรง เขาจะยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อเธอได้หรือไม่? และเธอจะกล้าทิ้งอดีตเพื่อก้าวไปกับเขาหรือ...